วันพุธ, กันยายน 12, 2555

บันทึกฉบับหยุดยาว


สวัสดี (Bonjour !) ทุกๆคนค่ะช่วงเกือบอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันป่วยเป็นโรคอีสุก อีใสค่ะ มันไม่น่าเกิดกับคนในวัยของฉันแล้วใช่ไหมละคะ ก็อายุขนาดนี้แล้วอีสุก อีใสไม่น่าจะลืมฉันแล้วปล่อยให้เวลามันผ่านมานานขนาดนี้หรอกนะคะ แต่ไหนๆมันก็เกิดขึ้นแล้ว ฉันก็เลยตามเลยค่ะ ฉันจะดีใจเสียด้วยซ้ำที่ฉันได้มีโอกาสเป็นเสียตอนนี้ สมมติว่าโรคนี้มาเกิดกับฉันตอนปีหน้า ช่วงเวลาของการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ไหนจะป่วย ไหนจะอ่านหนังสือ ไหนจะต้องเรียนหนังสือ และไหนจะภาระพิเศษต่างๆนานา แล้วถ้าสมมติอีกว่าฉันไปเป็นตอนอายุสามสิบ สี่สิบ หรือมากกว่า อาการของโรคก็จะยิ่งร้ายกาจทวีคูณตามอายุกันเลยทีเดียว แต่ถึงมาเป็นตอนนี้ก็ยังจะได้ยินได้ฟัง บางคนที่เขารัก หรือหวังดีก็ว่าสงสาร แต่บางคนที่เกลียด หรือหวังร้าย เขาก็สมน้ำหน้าเอา ได้ฟังมาก็เศร้าทำไมต้องซ้ำเติมกันอีก แต่จะไปโกรธเขาที่คิดไม่ดีกับเรา ก็ไม่ได้ตราบใดที่เขาไม่ได้เกิด ไม่ได้ถูกสั่งสอนให้คิด ให้เชื่อมาพร้อมกับเราไม่ได้ฉันใด จิตใจของมนุษย์ก็พันเลี้ยวต่างกันตามที่มาฉันนั้น “ร้อยพ่อ พันแม่มาอยู่ด้วยกันนี่คะ” แต่ถามว่าเสียใจหรือไม่ที่มาเป็นอีสุก อีใสตอนนี้ ฉันก็ขอตอบเลยนะคะว่าไม่เลยคะ คนเราเกิดมาตายได้ครั้งเดียว เราจึงต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เป็นให้หมดทุกอย่าง สนุกเศร้าสุขทุกข์อย่างรู้รสให้ถึงแก่น และด้วยความที่ป่วยเป็นโรคอีสุก อีใส ทำให้ต้องหยุดเรียน ที่ถ้าเป็นธรรมดาก็คงดีใจจนหน้าบาน ตีพุงรอนอนอยู่บ้านเลยทีเดียว แต่นี่มันสัปดาห์ใกล้สอบแล้วกะจิตกะใจมันต่างกันเชียวละคะ ครั้นจะไปโรงเรียนก็เกรงใจเพื่อนๆที่เขายังไม่เคยเป็น กลัวจะไปทำเขาเดือดร้อนแบบไม่รู้ตัว ก็เลยต้องหยุดเรียนไปตามที่กล่าวมาก็คงโดนบรรดาอาจารย์เอ็ดว่ากันบ้าง แต่แหมถ้าจะมาโรงเรียน ขี้คร้านก็ถูกอาจารย์นั่นแหละที่ไล่ให้กลับบ้านเสียเอง ฉันก็เลยทิ้งท้ายบทความนี้ด้วยประโยคสั้นๆของเขาผู้นี้ค่ะ

“Be nice to nerds.
Chances are you’ll end up working for one”
.Bill Gates

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น